โคเอนไซม์ คิวเทน คือ ?
โคเอนไซม์ คิวเทน หรือ วิตามิน Q เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับสุขภาพและการอยู่รอด มีอยู่ในเซลล์ของมนุษย์ทุกเซลล์ มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายเทอิเลคตรอนสำหรับไมโทคอนเดรีย ซึ่งเป็นพลังงานของเซลล์ มีรูปร่างคล้ายซิการ์ ร่างกายเรามีไมโทคอนเดรียหลายพันล้านอันที่ทำหน้าที่สร้างพลังงานให้กับร่างกาย โคเอนไซม์ คิวเทน เป็นสารประกอบแอนตี้ออกซิแดนท์ที่เหมือนกับวิตามินเค
โคเอนไซม์ คิวเทน ดีต่อร่างกายอย่างไร ?
มีความสำคัญในการสร้างพลังงานพื้นฐานของเซลล์ ทำให้เนื้อเยื่อและอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายทำงานเป็นปกติ พบมากในอวัยวะที่ต้องการพลังงานสูงโดยเฉพาะหัวใจ สมอง ตับ ไต ซึ่งหากขาดโคเอนไซม์ คิวเทน จะทำให้ร่งกายขาดพลังงานไปอย่างมาก ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจลดลงหรือเซลล์สมองทำงานผิดปกติ คุณสมบัติเด่นของโคเอนไซม์ คิวเทนอีกอย่างคือเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์แรง ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ต่าง ๆ สามารถชะลอความแก่ โดยสร้างพลังงานให้กับผิวเพื่อในการแบ่งเซลล์ ทำให้ริ้วรอยต่าง ๆ สามารถดลงและเลือนหายไป นอกจากนั้นโคเอนไซม์ คิวเทนยังช่วยในการ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เสริมเกราะภูมิคุ้มกันให้สูงขึ้น ป้องกันและรักษาโรคเหงือก โรคความดันสูง โรคโคเลสเตอรอลสูงได้อีกด้วย
โคเอนไซม์ คิวเทน มาจากไหน และเพียงพอกับความต้องการหรือไม่ ?
ตามธรรมชาติร่างกายมนุษย์สามารถสร้างโคเอนไซม์ คิวเทน ได้เองภายในเซลล์ของอวัยวะที่ต้องการพลังงานสูงอย่างเช่น ในหัวใจ ตับ ไต และเซลล์อื่น ๆ เช่น ผิวหนังที่ชั้นหนังกำพร้าและหนังแท้ โคเอนไซม์ คิวเทนสร้างได้ปริมาณสูงสุดเมื่ออายุ 20 ปี หลังจากนั้นจะสร้างได้น้อยลงเรื่อย ๆ ในขณะที่ปริมาณการใช้งานยังเท่าเดิมหรือมากขึ้น และสามารถพบโคเอนไซม์ คิวเทน จากอาหารต่าง ๆ เช่น เนื้อปลา เนื้อวัว เครื่องในสัตว์ ถั่วเปลือกแข็ง แต่ในระหว่างการปรุงโดยใช้อุณหภูมิสูง เช่น การปิ้ง ทอด ย่าง ซึ่งทำให้โคเอนไซม์ คิวเทน ถูกทำลายไป จึงทำให้คนส่วนใหญ่เกิดสภาวะขาดโคเอนไซม์ คิวเทน
ไอริส คิวเทน พลัส มีอะไรใหม่ ?
ไอริส คิวเทน พลัส เพิ่ม 5 ส่วนผสมที่มากด้วยคุณค่ามีประโยชน์ต่อร่างกาย ดูดซึมได้ดีกว่าเดิมในรูปแบบซอฟเจล เนื่องจากโคเอนไซม์ คิวเทน ละลายได้ดีในไขมัน โคเอนไซม์ คิวเทนที่ร่างกายดูดซึมและนำไปใช้ได้ดีจะต้องอยู่ในรูปแบบที่ละลายในน้ำมันและน้ำ เช่นรูปแบบที่เรียกว่า อิมัลชน ในแคปซูลนิ่มที่ร่างกายจะดูดซึมได้ดีกว่า
ไอริส คิวเทน พลัส กับอีก 5 ส่วนผสม มหัศจรรย์!!
1. น้ำมันจมูกข้าว มีสารแกมม่าโอไรซานอล (Gamma Oryzanol) ช่วยลดระดับไขมันโคเลสเตอรอลในเส้นเลือด , โอเมก้า 3 (Omega 3) ช่วยบำรุงสมอง , โอเมก้า 6 (Omega 6) ทำให้ผิวหนังสดใส ช่วยให้ระบบสืบพันธุ์ทำงานได้ปกติ รักษาอาการวัยทองทั้งในเพศชายและหญิง ลดภาวะท้องผูก มีสารเซราไมด์ ช่วยบำรุงผิวพรรณให้นุ่มนวลอ่อนเยาว์ ลบเลือนริ้วรอยเหี่ยวย่น ด่างดำ ฝ้า กระ , สารโพลีโคซานอล (Policosanol) ซึ่งเป็นสาร Anti-Platelet agent ช่วยลดการอุดตันในหลอดเลือด , สารเมลาโทนิน (Melatonin) ช่วยให้นอนหลับสบาย
2. เบต้าแคโรทีน ช่วยให้มองเห็นในที่มืดได้ดี ลดความเสื่อมของเซลล์ของลูกตา ลดความเสี่ยงต่อการเป็นต้อกระจก ช่วยป้องกันผิวที่อาจเกิดจากอันตรายของรังสีอัลตราไวโอเลตที่มากับแสงแดดได้ จึงทำให้ผิวพรรณมีสุขภาพดี ไม่มีริ้วรอยแก่ก่อนวัย แลดูสดใสอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังช่วยรักษาสภาพปกติของเซลล์เยื่อบุตาขาว กระจก ตา ช่องปาก ทางเดินอาหาร ทางเดินหายใจ รวมถึงทางเดินปัสสาวะให้เป็นปกติ และยังช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้ดีอีกด้วย
3. สารสกัดจากเปลือกสน ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง (Super Antioxidation) และยังเสริมฤทธิ์การทำงานของวิตามิน C และวิตามิน E ช่วยป้องกันร่างกายจากอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นในร่างกายตลอดเวลา รวมทั้งปัจจัยภายนอกต่าง ๆ อันเป็นสาเหตุของความเสื่อมของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น หลอดเลือด หัวใจ ดวงตา ผิวหนัง รวมไปถึงระบบประสาท เป็นต้น นอกจากจะสามารถลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ เส้นเลือดขอด และการอุดตันของลิ่มเลือด โดยจะเข้าไปเสริมความแข็งแรงของหลอดเลือด ซึ่งทำให้เกิดความยืดหยุ่น ไม่เปราะและแตกร้าว นอกจากนี้ในผู้ป่วยที่เป็นเบาหวาน อัมพาต ยังช่วยให้เลือดนำออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้มากขึ้น แถมยังช่วยลดภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อ แขนขาลีบและกล้ามเนื้ออ่อนแรงอีกด้วย นอกจากนี้ปัญหาฝ้า และผิวหมองคล้ำ ริ้วรอยก่อนวัยก็ยังช่วยได้ โดยจะเข้าไปช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนและไปยับยั้งการทำงานของเม็ดสีผิวที่ผิดปกติ ทำให้ผิวเนียบเรียบแข็งแรงและยืดหยุ่นได้ดีขึ้น สีผิวสม่ำเสมอ นอกจากนี้การได้รับเป็นประจำยังส่งผลให้ลดภาวะความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งที่ผิวหนัง เนื่องจากเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงนั่นเอง
4. วิตามิน อี เป็นตัวแอนตี้ออกซิแดนท์ คือทำให้เกิดการเผาผลาญโดยมีออกซิเจนเป็นตัวการสำคัญทำให้ร่างกายเผาผลาญได้ดี เป็นตัวช่วยไขกระดูกในการสร้างเลือด ช่วยขยายเส้นเลือด ต้านการเข็งตัวของเลือด ลดความสามารถในการจับตัวเป็นลิ่มเลือด และลดอัตราเสี่ยงของโรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือดสมองและหัวใจ บำรุงตับซึ่งทำหน้าที่เกี่ยวกับเลือดมาก ช่วยในระบบสืบพันธุ์ เซลล์ประสาท และกล้ามเนื้อให้ทำงานได้ตามปกติ ช่วยให้ผิวพรรณสดใส และช่วยสมานแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวกให้หายเร็วขึ้น ช่วยให้ปอดทำงานดีขึ้นและไม่อ่อนเพลียง่าย
5. แกมมาโอไรซานอล พบมากที่สุดในข้าว มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ และสามารถต้านอนุมูลอิสระได้ดีกว่าวิตามินอีถึง 6 เท่าในภาวะที่อยู่ในน้ำ ลดการเสื่อมสภาพของเซลล์ในร่างกายอันทำให้เกิดการแก่ก่อนวัย ป้องกันเซลล์ผิวจากการถูกทำลายด้วยแสงแดด ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส ซึ่งเป็นตัวเร่งการสร้างเม็ดสี จึงทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น ลดระดับของไขมันในเลือด ลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจอุดตัน เพิ่มการหลั่งสารเอ็นโดรฟิน (Endophine Hormone) ช่วยผ่อนคลายความเครียดและหลับสบาย กระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนสำหรับการเจริญเติบโต (Growth Hormone) ลดการสูญเสียแคลเซียม ทำให้ลดอัตราการเกิดโรคกระดูกพรุน ลดอัตราการเกิดภาวะวัยทอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น