3 พฤษภาคม 2558

ไอริส คิวเทน พลัส

www.healthfoodshop.in.th



โคเอนไซม์ คิวเทน คือ ?

โคเอนไซม์ คิวเทน หรือ วิตามิน Q เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับสุขภาพและการอยู่รอด  มีอยู่ในเซลล์ของมนุษย์ทุกเซลล์  มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายเทอิเลคตรอนสำหรับไมโทคอนเดรีย  ซึ่งเป็นพลังงานของเซลล์  มีรูปร่างคล้ายซิการ์  ร่างกายเรามีไมโทคอนเดรียหลายพันล้านอันที่ทำหน้าที่สร้างพลังงานให้กับร่างกาย  โคเอนไซม์ คิวเทน เป็นสารประกอบแอนตี้ออกซิแดนท์ที่เหมือนกับวิตามินเค

โคเอนไซม์ คิวเทน ดีต่อร่างกายอย่างไร ?

มีความสำคัญในการสร้างพลังงานพื้นฐานของเซลล์  ทำให้เนื้อเยื่อและอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายทำงานเป็นปกติ  พบมากในอวัยวะที่ต้องการพลังงานสูงโดยเฉพาะหัวใจ สมอง ตับ ไต  ซึ่งหากขาดโคเอนไซม์ คิวเทน จะทำให้ร่งกายขาดพลังงานไปอย่างมาก  ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจลดลงหรือเซลล์สมองทำงานผิดปกติ  คุณสมบัติเด่นของโคเอนไซม์ คิวเทนอีกอย่างคือเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์แรง  ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ต่าง ๆ สามารถชะลอความแก่  โดยสร้างพลังงานให้กับผิวเพื่อในการแบ่งเซลล์  ทำให้ริ้วรอยต่าง ๆ สามารถดลงและเลือนหายไป  นอกจากนั้นโคเอนไซม์ คิวเทนยังช่วยในการ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เสริมเกราะภูมิคุ้มกันให้สูงขึ้น  ป้องกันและรักษาโรคเหงือก โรคความดันสูง โรคโคเลสเตอรอลสูงได้อีกด้วย

โคเอนไซม์ คิวเทน มาจากไหน และเพียงพอกับความต้องการหรือไม่ ?

ตามธรรมชาติร่างกายมนุษย์สามารถสร้างโคเอนไซม์ คิวเทน ได้เองภายในเซลล์ของอวัยวะที่ต้องการพลังงานสูงอย่างเช่น ในหัวใจ ตับ ไต และเซลล์อื่น ๆ เช่น ผิวหนังที่ชั้นหนังกำพร้าและหนังแท้  โคเอนไซม์ คิวเทนสร้างได้ปริมาณสูงสุดเมื่ออายุ 20 ปี  หลังจากนั้นจะสร้างได้น้อยลงเรื่อย ๆ ในขณะที่ปริมาณการใช้งานยังเท่าเดิมหรือมากขึ้น  และสามารถพบโคเอนไซม์ คิวเทน จากอาหารต่าง ๆ เช่น เนื้อปลา เนื้อวัว เครื่องในสัตว์ ถั่วเปลือกแข็ง  แต่ในระหว่างการปรุงโดยใช้อุณหภูมิสูง เช่น การปิ้ง ทอด ย่าง ซึ่งทำให้โคเอนไซม์ คิวเทน ถูกทำลายไป  จึงทำให้คนส่วนใหญ่เกิดสภาวะขาดโคเอนไซม์ คิวเทน

ไอริส คิวเทน พลัส มีอะไรใหม่ ?

ไอริส คิวเทน พลัส เพิ่ม 5 ส่วนผสมที่มากด้วยคุณค่ามีประโยชน์ต่อร่างกาย  ดูดซึมได้ดีกว่าเดิมในรูปแบบซอฟเจล  เนื่องจากโคเอนไซม์ คิวเทน ละลายได้ดีในไขมัน  โคเอนไซม์ คิวเทนที่ร่างกายดูดซึมและนำไปใช้ได้ดีจะต้องอยู่ในรูปแบบที่ละลายในน้ำมันและน้ำ  เช่นรูปแบบที่เรียกว่า อิมัลชน ในแคปซูลนิ่มที่ร่างกายจะดูดซึมได้ดีกว่า

ไอริส คิวเทน พลัส กับอีก 5 ส่วนผสม มหัศจรรย์!!

1. น้ำมันจมูกข้าว  มีสารแกมม่าโอไรซานอล (Gamma Oryzanol)  ช่วยลดระดับไขมันโคเลสเตอรอลในเส้นเลือด , โอเมก้า 3 (Omega 3) ช่วยบำรุงสมอง , โอเมก้า 6 (Omega 6) ทำให้ผิวหนังสดใส  ช่วยให้ระบบสืบพันธุ์ทำงานได้ปกติ  รักษาอาการวัยทองทั้งในเพศชายและหญิง  ลดภาวะท้องผูก  มีสารเซราไมด์ ช่วยบำรุงผิวพรรณให้นุ่มนวลอ่อนเยาว์  ลบเลือนริ้วรอยเหี่ยวย่น ด่างดำ ฝ้า กระ , สารโพลีโคซานอล (Policosanol)  ซึ่งเป็นสาร Anti-Platelet agent ช่วยลดการอุดตันในหลอดเลือด , สารเมลาโทนิน (Melatonin) ช่วยให้นอนหลับสบาย

2. เบต้าแคโรทีน  ช่วยให้มองเห็นในที่มืดได้ดี  ลดความเสื่อมของเซลล์ของลูกตา  ลดความเสี่ยงต่อการเป็นต้อกระจก  ช่วยป้องกันผิวที่อาจเกิดจากอันตรายของรังสีอัลตราไวโอเลตที่มากับแสงแดดได้  จึงทำให้ผิวพรรณมีสุขภาพดี  ไม่มีริ้วรอยแก่ก่อนวัย  แลดูสดใสอยู่เสมอ  นอกจากนี้ยังช่วยรักษาสภาพปกติของเซลล์เยื่อบุตาขาว กระจก ตา ช่องปาก ทางเดินอาหาร ทางเดินหายใจ รวมถึงทางเดินปัสสาวะให้เป็นปกติ  และยังช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้ดีอีกด้วย

3. สารสกัดจากเปลือกสน  ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง (Super Antioxidation)  และยังเสริมฤทธิ์การทำงานของวิตามิน C และวิตามิน E  ช่วยป้องกันร่างกายจากอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นในร่างกายตลอดเวลา  รวมทั้งปัจจัยภายนอกต่าง ๆ อันเป็นสาเหตุของความเสื่อมของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย  เช่น  หลอดเลือด หัวใจ ดวงตา ผิวหนัง รวมไปถึงระบบประสาท เป็นต้น  นอกจากจะสามารถลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ เส้นเลือดขอด และการอุดตันของลิ่มเลือด  โดยจะเข้าไปเสริมความแข็งแรงของหลอดเลือด  ซึ่งทำให้เกิดความยืดหยุ่น  ไม่เปราะและแตกร้าว  นอกจากนี้ในผู้ป่วยที่เป็นเบาหวาน อัมพาต ยังช่วยให้เลือดนำออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้มากขึ้น  แถมยังช่วยลดภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อ  แขนขาลีบและกล้ามเนื้ออ่อนแรงอีกด้วย  นอกจากนี้ปัญหาฝ้า และผิวหมองคล้ำ ริ้วรอยก่อนวัยก็ยังช่วยได้  โดยจะเข้าไปช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนและไปยับยั้งการทำงานของเม็ดสีผิวที่ผิดปกติ  ทำให้ผิวเนียบเรียบแข็งแรงและยืดหยุ่นได้ดีขึ้น  สีผิวสม่ำเสมอ  นอกจากนี้การได้รับเป็นประจำยังส่งผลให้ลดภาวะความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งที่ผิวหนัง  เนื่องจากเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงนั่นเอง

4. วิตามิน อี  เป็นตัวแอนตี้ออกซิแดนท์  คือทำให้เกิดการเผาผลาญโดยมีออกซิเจนเป็นตัวการสำคัญทำให้ร่างกายเผาผลาญได้ดี  เป็นตัวช่วยไขกระดูกในการสร้างเลือด  ช่วยขยายเส้นเลือด  ต้านการเข็งตัวของเลือด  ลดความสามารถในการจับตัวเป็นลิ่มเลือด  และลดอัตราเสี่ยงของโรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือดสมองและหัวใจ  บำรุงตับซึ่งทำหน้าที่เกี่ยวกับเลือดมาก  ช่วยในระบบสืบพันธุ์ เซลล์ประสาท และกล้ามเนื้อให้ทำงานได้ตามปกติ  ช่วยให้ผิวพรรณสดใส  และช่วยสมานแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวกให้หายเร็วขึ้น  ช่วยให้ปอดทำงานดีขึ้นและไม่อ่อนเพลียง่าย

5. แกมมาโอไรซานอล  พบมากที่สุดในข้าว  มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ  และสามารถต้านอนุมูลอิสระได้ดีกว่าวิตามินอีถึง 6 เท่าในภาวะที่อยู่ในน้ำ  ลดการเสื่อมสภาพของเซลล์ในร่างกายอันทำให้เกิดการแก่ก่อนวัย  ป้องกันเซลล์ผิวจากการถูกทำลายด้วยแสงแดด  ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส  ซึ่งเป็นตัวเร่งการสร้างเม็ดสี  จึงทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น  ลดระดับของไขมันในเลือด  ลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจอุดตัน  เพิ่มการหลั่งสารเอ็นโดรฟิน (Endophine Hormone)  ช่วยผ่อนคลายความเครียดและหลับสบาย  กระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนสำหรับการเจริญเติบโต (Growth Hormone)  ลดการสูญเสียแคลเซียม  ทำให้ลดอัตราการเกิดโรคกระดูกพรุน  ลดอัตราการเกิดภาวะวัยทอง

ไม่มีความคิดเห็น: