8 พฤศจิกายน 2560

ผิดอย่างมหันต์...ถ้าคิดพึ่งลูก


ที่ไต้หวัน  มีแม่หม้ายอยู่คนหนึ่ง  ชั่วชีวิตยึดอาชีพครู  เลี้ยงลูกชายจนเติบใหญ่  ลูกคนนี้เมื่อยังเล็กเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย  แม่เลี้ยงดูสั่งสอนจนเป็นหนุ่ม  หลังจากนั้นก็ส่งลูกชายศึกษาต่อยังประเทศสหรัฐอเมริกา  เมื่อลูกชายจบการศึกษาที่อเมริกาได้การงานที่ดีมีเงินซื้อบ้าน  แล้วก็แต่งงานจนมีบุตร 1 คน  มีความเป็นอยู่ที่สบาย  เป็นครอบครัวที่มีความสุขที่สุด

ส่วนผู้เป็นแม่อยู่ที่ไต้หวันคนเดียวโดดเดี่ยว  ก็ได้ตรึกตรองกับตนเองว่า  เมื่อหลังเกษียณถ้าได้ไปอยู่กับลูกชายที่อเมริกาชีวิตบั้นปลายคงจะมีความสุขไม่น้อย  คิดแล้วก่อนจะเกษียณ 3 เดือนก็ตัดสินใจเขียนจดหมายถึงลูกชายที่อเมริกา  ได้เล่าความในใจที่อยากใช้ชีวิตบั้นปลายกับลูกที่อเมริกา  เพื่อน ๆ รู้คงจะอิจฉา  คิดแล้ว...ในใจก็มีแต่ความสุข

ขณะเดียวกันก็ได้จัดการทรัพย์สินการงานที่ไต้หวัน  เพื่อจะได้ไปอยู่อเมริกากับลูกชาย  ก่อนจะเกษียณไม่นานก็ได้รับจดหมายตอบกลับจากลูกชายที่อเมริกา  เมื่อเปิดซองจดหมายออก  สิ่งแรกที่ได้เห็นคือตั๋วเงิน 30,000 เหรียญ  ครั้งแรกที่เห็นรู้สึกแปลกใจที่ลูกชายส่งตั๋วเงินมาให้  เพราะตั้งแต่ลูกชายอยู่อเมริกาไม่เคยสักครั้งที่จะส่งเงินมาให้แม่...แม้แต่เหรียญเดียว  ด้วยความสงสัยก็รีบเปิดจดหมายออกอ่าน  หัวใจแทบสลายไม่คิดว่าจะได้รับข้อความที่บาดใจจากลูกชาย

ความหวังทั้งหมดได้ล่มสลายเพียงคำพูดไม่กี่ประโยคของลูกชายที่ว่า :

"แม่ครับ  ผมและภรรยาได้ปรึกษากันแล้วว่า  ถ้าแม่จะมาอยู่อเมริกากับผมและครอบครัวคงจะไม่เหมาะ  เพราะเราไม่ชอบให้มีคนอื่นมาอยู่ด้วย  ที่พูดมานี้  แม่คงว่าผมอกตัญญูไม่รู้บุญคุณแม่  แต่ผมก็ได้คำนวณแล้วว่า  ที่แม่ได้เลี้ยงดูผมมาคงเสียเงินเสียทองไปไม่น้อย  แต่คงไม่เกิน 30,000 เหรียญ  ซึ่งผมได้เติมให้ครบแล้ว  จากนี้แม่ก็ไม่ต้องเขียนจดหมายมาต่อความยาวให้ยืดเยื้ออีก"
เมื่อแม่ได้อ่านจดหมายของลูกจบลง  ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตาดังสายฝน  แล้วรำพึงรำพันกับตัวเองว่า  เราคงต้องอยู่เป็นหม้าย  อยู่อย่างอ้างว้างเดียวดายจนแก่เฒ่า  เธอรู้สึกเจ็บปวดไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป

หลังจากนั้นเธอจึงตัดสินใจไปศึกษาธรรมะ  หลังจากศึกษาธรรมะได้สักระยะ  ก็เข้าถึงแก่นแท้ของจิตใจคน  ได้มองเห็นแสงสว่างข้างหน้า  เมื่อเธอคิดได้ดังนั้น  จึงนำเงิน 30,000 เหรียญที่ลูกชายให้ไปท่องเที่ยวทั่วโลก  ระหว่างท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่าง ๆ ทำให้ได้เห็นโลกอันกว้างใหญ่ที่สวยงามและพบกับผู้คนมากมาย  เมื่อกลับจากการท่องเที่ยว  จึงเขียนจดหมายฉบับหนึ่งถึงลูกชายที่อเมริกา

ในจดหมายมีข้อความว่า :

"ลูกรัก  ลูกบอกไม่ให้แม่เขียนจดหมายถึงลูกอีก  แต่จดหมายฉบับนี้แม่คิดว่าเป็นจดหมายที่แม่เคยเขียนให้ลูกแต่ก่อน  เมื่อแม่ได้รับตั๋วเงินจากลูกแล้วก็ได้นำเงินทั้งหมดไปท่องเที่ยวทั่วโลก  ขณะนั้นแม่รู้สึกว่าควรจะขอบใจลูกที่ทำให้แม่เข้าใจ  หูตาสว่าง  รู้จักปล่อยวาง  มองเห็นทาสแท้ของคน  รากฐานของจิตใจ  มิตรภาพและความรักของคนเป็นสิ่งเลื่อนลอยเอาแน่นอนไม่ได้  ทุกสิ่งในโลกนี้ต้องเปลี่ยนไปตามกาลเวลา  ถ้าแม่มองไม่เห็นทางสว่างในใจมีแต่ความเคียดแค้น เกลียดชัง เจ็บปวด  คงไม่มีชีวิตอยู่จนถึงทุกวันนี้แน่  หรือถ้าแม่คิดไม่ตก  คงฆ่าตัวตายตั้งแต่วันแรกที่ได้รับจดหมายจากลูก  และคงจะตายเป็นผีอย่างไม่เป็นธรรม
การที่ลูกตัดเยื่อใยความเป็นลูกกับแม่  ทำให้แม่ได้เห็นแก่นแท้ของมนุษย์  ที่ยังขาดความสมบูรณ์ของคุณธรรม ศีลธรรม จริยธรรม  ยังทำให้แม่ได้เรียนรู้ถึงความสงบของจิตใจ  แม่ไม่วิตกกังวลที่ต้องอยู่คนเดียว  เพราะแม่ไม่มีลูกอีกแล้ว  เพราะฉะนั้น  แม่จึงมีชีวิตอยู่คนเดียวอย่างมีความสุข"
จ้าวฝู่ชู  ได้กล่าวไว้ว่า :
"บ้านของพ่อแม่คือ...บ้านของลูก ๆ
แต่บ้านของลูก...ไม่ใช่บ้านของพ่อแม่
การให้กำเนิดลูก...เป็นหน้าที่
การเลี้ยงลูก...เป็นความผูกพัน
ผิดอย่างมหันต์...ถ้าคิดพึ่งลูก"
  

ที่มา : Foward Line

ภาพประกอบ : www.azmega.com

ไม่มีความคิดเห็น: